วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

มารู้จัก...โรคปริทันต์ (Periodontal Disease) หรือ โรคเหงือกอักเสบ


โรคปริทันต์
โรคปริทันต์ (Periodontal Disease) หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า โรคเหงือกอักเสบ แต่จริงๆแล้ว โรคปริทันต์ 
มิได้มีการอักเสบเกิดขึ้นแค่ที่เหงือกเท่านั้น แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับอวัยวะรอบๆฟัน อันได้แก่ เหงือก, 
กระดูกเบ้าฟัน, เอ็นยึดปริทันต์ และ ผิวรากฟัน

สาเหตุของโรคปริทันต์
สาเหตุเบื้องต้น คือ เชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่มีอยู่ในช่องปากซึ่งเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนขึ้นในสภาวะ
ที่เหมาะสม กล่าวคือการมีคราบอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลที่เกาะบนผิวฟัน และจากการที่เรา
ทำความสะอาดฟันไม่ดีพอ ทำให้คราบอาหารเหล่านี้กลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย ทำให้
แบคทีเรียเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนขึ้นแผ่กระจายไปบนผิวฟัน ที่เราเรียกกันว่า แผ่นคราบจุลินทรีย์ 
แบคทีเรียพวกนี้เมื่อมีการบริโภคอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเข้าไปจะปล่อยกรดและสารพิษออกมา
 เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบ ผลคือทำให้เหงือกบวมแดงอักเสบและมีเลือดออก 
ทำให้เกิดการทำลายอวัยวะปริทันต์ แผ่นคราบจุลินทรีย์ไม่เพียงแต่จะมีแค่ส่วนตัวฟันที่อยู่
เหนือขอบเหงือกเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในส่วนใต้ขอบเหงือกที่เรามองไม่เห็น 
 ส่วนนี้เองที่ทำให้เกิดโรคปริทันต์ลงสู่กระดูกเบ้าฟัน ผลคือทำให้กระดูกเบ้าฟันละลาย 
ทำให้ล่องเหงือกลึกลงไปเรื่อยๆ ทำให้ฟันไม่ยึดติดกับเหงือกและก่อให้เกิดหนองในร่องปริทันต์ 
ทำให้รู้สึกเจ็บเหงือกและอาจมีอาการปวดเมื่อเคาะที่ตัวฟันและฟันโยกได้
 ถ้าปล่อยทิ้งไว้เหงือกและกระดูกเบ้าฟันจะถูกทำลายลงเรื่อยๆจนในที่สุดก็อาจจะต้องสูญเสียฟันซี่นั้นไป 
 เนื่องจากสูญเสียอวัยวะรอบฟันที่ช่วยในการยึดเกาะฟันไว้กับขากรรไกร

อธิบายอีกนัยหนึ่ง คือ คราบเชื้อโรคเมื่อเกาะบนผิวฟันนานๆกลายเป็นคราบหินปูน เมื่อมีคราบหินปูนก็เป็นที่สะสมของคราบเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น เมื่อคราบหินปูนและแบคที่เรียสะสมมากขึ้นและนานขึ้น จะเพิ่มปริมาณลึกลงไปใต้ขอบเหงือก ทำให้การอักเสบลุกลามลงไปยังอวัยวะปริทันต์ทั้งหมด จึงเกิดการทำลายอวัยวะปริทันต์ตามมา
อาการบ่งชี้ว่าเป็นโรคปริทันต์
1. มีเลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน
2. เหงือกบวมแดง
3. มีกลิ่นปาก
4. เหงือกร่น
5. อาจมีหนองออกตามร่องเหงือก
6. ฟันโยก
ฟันที่มีคราบพลัคและหินปูนเกาะ

ภาพแสดงฟันที่มีคราบพลัคและหินปูนเกาะ

โรคเหงือกอักเสบ โรคเหงือกอักเสบ โรคเหงือกอักเสบ โรคเหงือกอักเสบ
ภาพแสดงเหงือกที่อักเสบและปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาจนในที่สุดต้องสูญเสียฟันไป
การรักษาโรคเหงือกควรจะรีบทำการรักษาในทันทีที่มีการตรวจพบว่าเป็นโรคเหงือก เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น หากพบอาการของโรคเหงือก ควรจะเข้าพบทันตแพทย์ หรือทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อที่จะทำการรักษาแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยไว้ โรคเหงือก จะทำให้สูญเสียฟันได้
หินปูนเกาะสะสมจนเป็นโรคเหงือกอักเสบ
ภาพแสดงฟันที่มีคราบหินปูนเกาะสะสม
จนทำให้เหงือกอักเสบ

ขั้นตอนการรักษาโรคเหงือก...

เมื่อทราบสาเหตุแล้วว่า โรคปริทันต์ ว่าเกี่ยวข้องกับการสะสมของคราบหินปูน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่การรักษาจะต้องมีการขูดหินปูน และเกลารากฟัน(root planing) ร่วมด้วย คำว่าเกลารากฟันนี้อาจจะเป็นศัพท์ใหม่ ที่คนทั่วไปไม่ค่อยคุ้น แปลไทยเป็นไทยได้ว่า ทำผิวรากฟันให้เรียบ (เกลา = ทำให้เรียบ) คือการกำจัดคราบหินปูนและคราบเชื้อโรคที่เกาะบนรากฟันให้หมด จนได้ผิวรากฟันที่เรียบแข็ง ช่วยให้เหงือกกลับมายึดได้ดีขึ้น

สรุปขั้นตอนการรักษา

1. การรักษาจะต้องมีการขูดหินปูน และเกลารากฟัน (root planing) ร่วมด้วย โดยจะขูดหินปูนทั้นบนตัวฟันและส่วนที่อยู่บนผิวรากฟันภายในร่องปริทันต์ ส่วนการเกลารากฟันคือการทำให้ผิวรากฟันเรียบเพื่อให้เนื้อเยื่อเหงือกสามารถกลับมายึดแน่นติดกับผิวฟันได้เหมือนเดิม ซึ่งขั้นตอนนี้จะต้องทำซ้ำหลายๆครั้ง

2. หลังจากรักษาเสร็จแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะเรียกกลับมาดูอาการอีกครั้งว่า หายดีหรือไม่ ถ้ายังมีร่องลึกปริทันต์เหลืออยู่หรือมีการละลายของกระดูกไปมาก อาจจำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดเหงือก (ศัลย์ปริทันต์ : Periodontal Surgery) ร่วมด้วย

3. ท่านจะต้องทำความสะอาดฟันและซอกฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอด้วยตนเอง อย่างน้อยจะต้องใช้แปรงและไหมขัดฟันทุกวัน เพื่อที่จะกำจัดคราบจุลินทรีย์ให้หมดทุกวัน

4. ไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจดูว่ามีคราบจุลินทรีย์และหินปูนหลงเหลือจากการทำความสะอาดเองหรือไม่ เพื่อที่จะได้รับการรักษาในระยะแรก
หากในคนไข้ที่เป็นโรคเหงือกมาก ๆ ก็อาจจำเป็นต้องพบทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการเกลารากฟัน เพื่อขจัดคราบจุลินทรีย์ และหินปูนที่บริเวณตัวฟัน และผิวรากฟัน การขูดเหงือกเป็นการกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อที่ช่องเหงือก การขูดหินปูน และการขูดเหงือกเป็นการใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากอย่างจริง ก็จะเพียงพอต่อการควบคุมโรค แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค
สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคเหงือกมาก ๆ การขูดหินปูนและการขูดเหงือก อาจจะไม่ได้ผล ซึ่งในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทำการผ่าตัด ซึ่งระหว่างการผ่าตัดนี้ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะทำการยกเหงือกเพื่อที่จะดูการลุกลามไปที่รากหรือกระดูก คราบจุลินทรีย์และหินปูนที่ได้ทำการขจัดออกจากบริเวณและจากกระดูกฟัน จากนั้นนำเหงือกกลับสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมที่เหมาะแก่การทำความสะอาดหลังการรักษา

เมื่อมีการเปิดเหงือก และกระดูกมีการสูญเสียไป บางครั้งคนไข้ต้องรักษาโดยการปลูกกระดูก ซึ่งการปลูกกระดูกนี้เป็นการสร้างกระดูกจากไขกระดูกในปากของเราเอง หรือจากกระดูกเทียม ซึ่งในขั้นตอนนี้ จะทำการนัดคนไข้ ประมาณ 2-3 ครั้ง แต่ในบางกรรีก็สามารถเสร็จได้ภายในครั้งเดียว ในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีอุปกรณ์ครบครัน

เมื่อพบว่าเหงือกมีเลือดออกและเจ็บเล็กน้อยเวลาแปรงฟัน อาจจะเป็นอาการเบื้องต้นของโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเกิดจากการมีเศษอาหารและเชื้อโรคสะสมอยู่บริเวณเหงือกและคอฟัน ทำให้เกิดอาการอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดหนองและลุกลามติดเชื้อสู่รากฟันได้ แนวทางป้องกันเสียแต่เนินๆ คือ การแปรงฟัน ให้สะอาดและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันอย่างสม่ำเสมอ โรคปริทันต์สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ถ้าดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดี ดังนั้นจึงต้องดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีอย่างสม่ำเสมอด้วยการแปรงฟันและทำความสะอาดซอกฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเหงือก คือการใส่ใจดูแลรักษาตั้งแต่อยู่ที่บ้าน ซึ่งรวมถึงการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟัน การบ้วนปาก และการนวดเหงือก สุดท้าย คือรักษาสุขภาพปากและฟันให้สะอาดปราศจากเชื้อแบคทีเรีย

การรักษาฟันโยกคลอน : . .


การที่ฟันโยกคลอนไม่ได้หมายถึงต้องเป็นโรคเหงือกทุกรายไป แต่ถ้าคุณกดไปที่ตัวมันแล้วฟันหดเข้าไปในเหงือก โรคเหงือกอาจจะเป็นสาเหตุ หากเป็นโรคเหงือกไม่มากแล้วฟันมีการโยกคลอน อย่างรุนแรงทันตแพทย์จะทำการรักษา การรุกลามที่ปัญหาก่อน
หากฟันของคุณมีการเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่อง ทันตแพทย์แนะนำให้ทำการยึดฟัน ซึ่งการยึดฟันไว้ด้วยกันด้วยแผ่นพลาสติก หรือเครื่องมือที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการรับแรงดันจากการบดเคี้ยว ระหว่างที่เหงือกและฟันทำการรักษาอยู่ สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว อาจะแนะนำได้แก่การใส่

ในบางครั้งการสูญเสียกระดูกมากๆ การปลูกกระดูกไม่สามารถทำได้ในทุกรายไป อาจจะทำโดยการยึดฟันไว้ด้วยกัน ด้วยการ เพื่อเพิ่มความมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวเพื่อให้ฟันมีความเสถียรภาพ หากวิธีนี้ประสบความสำเร็จ การทำ Crowns linked ใส่แทนที่ฟันที่โยกคลอน การแก้ปัญหานี้เป็นการรักษาฟันซี่อื่นๆ

การรักษาสำหรับการสูญเสียเหงือก : : . .


เนื้อเยื่อของเหงือกสามารถสูญเสียได้ เกิดจากหลายสาเหตุ รวมถึง โรคเหงือก, การติดต่ออย่างรุนแรง หรือเป็นแผล หรือการถอนฟัน ในหลาย ๆ กรรีที่เหงือกถอยร่นไป สร้างปัญหาด้านความสวยงาม เช่นในกรณีการปลูกเนื้อเยื่อเหงือกเป็นการแก้ไขความผิดปกติ หรือเป็นการป้องกันก่อนที่จะลุกลาม

หากการสูญเสียเหงือกรุนแรง อาจจะนำวิธีการนำเหงือกเทียมถอดได้มาใช้ ทำจากพลาสติกที่มีความยืดหยุ่น นำมาปรับให้ได้รูปกับตัวฟัน และคลุมช่องว่างระหว่างฟัน ซึ่งต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

Full Crowning หรือการเคลือบฟัน สามารถนำมาใช้ได้เพื่อปกปิดเนื้อเยื่อที่สูญเสียไป แต่โดยปกติไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ หากฟันต้องการทำให้ดีดังเดิม ทางที่เป็นไปได้ใช้ composite resin ในการสร้างเนื้อฟันและปิดช่องว่าง ปกตินิยมทำการ เพราะเป็นการลดค่าใช้จ่าย และกรอเนื้อฟันออกเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การทำอย่างนี้ต้องทำซ้ำเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่ปี และไวต่อการเกิดคราบ

การรักษาสำหรับเหงือกร่น : : . .


เหงือกร่นเป็นต้นเหตุของโรคเหงือก ซึ่งจะเป็นปัญหาของความสวยงามด้วยเช่นกัน ถ้าคุณยิ้มแล้วเห็นเหงือก โดยเฉพาะหากคุณมีครอบฟัน (Crowns) หากเหงือกร่น จะทำให้เห็นตัวฟันที่แท้จริงที่ไม่ได้บังไว้ ซึ่งรากฟันของคุณนั้น ปกติจะสีคล้ำกว่าตัวครอบฟัน หรือคุณอาจจะพบว่าขอบของวัสดุหรือ Porcelain จะแสดงออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม แม้ว่าครอบฟันนั้นจะทำได้เหมือนธรรมชาติเท่าไรก็ตาม

เมื่อเหงือกร่นแล้ว โดยปกติเหงือกจะไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม ทันตแพทย์อาจจะแนะนำ ให้ผ่าตัดตกแต่งฟัน ถึงแม้ว่านำเนื้อเยื่อมาแทนที่ระหว่างฟันนั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ ทันตแพทย์สามารถปกปิดฟันซี่นั้นได้
การปกปิดทำได้โดย ย้ายบางส่วนของครอบฟัน และราก แล้วทำการยึดช่องว่างด้วย Composite Resin เพื่อปิดบังขอบของโลหะ หรือการเปิดราก อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะรักษาความสวยงามนี้ไว้ มีทางเลือกที่ดีกว่า คือการทำให้สีของโลหะค่อย ๆ จางลง หรือปกปิดด้วย Composite ที่สีเข้มกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ซึ่งการแก้ปัญหาคือการทำครอบฟันใหม่มาแทนที่

ทางที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจากเหงือกร่น คือการรักษาสุขอนามัยภายในช่องปาก และให้ทัตแพทย์ทำความสะอาดให้ปีละ 3-4 ครั้ง เช่นเดียวกัน ทำการทำความสะอาดทันทีหลังจากใส่ครอบฟัน แม้แต่เนื้อเยื่ออักเสบบวม หากมีแบคทีเรียสะสมรอบ ๆ เหงือกจะกระทบที่เนื้อเยื่อและทำให้เหงือกร่นได้


ในคนไข้ที่เป็นโรคเหงือก เหงือกจะถอยร่นไปทำให้เห็น
ตัวฟันยาวกว่าปกติ และทำให้มองเห็นช่องว่างระหว่างตัวฟัน


การสูญเสียเหงือกอย่างรุนแรงที่ฟันเขี้ยวขวา


โรคเหงือกที่เกิดจากการใส่ครอบฟันไม่ดี

ในภาพนี้แสดงให้เห็นว่า Porcelain หรือ Composite Resin
สร้างขึ้นมาเพื่อปิดบังช่องว่างระหว่างฟัน


การผ่าตัดตกแต่งเหงือก โดยนำเนื้อเยื่อมาปะ


ใส่ครอบฟันใหม่ที่พอดีสามารถปกปิดโรคเหงือกของคนไข้ได้
การรักษาโรคเหงือกควรจะรีบทำการรักษาในทันทีที่มีการตรวจพบว่าเป็นโรคเหงือก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การรักษายากยิ่งขึ้น หากพบอาการของโรคเหงือกควรเข้าพบทันตแพทย์ หรือทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อที่จะทำการรักษาแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยไว้ โรคเหงือกอาจทำให้สูญเสียฟันได้

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

แก้เคล็ด ปีชง2556 ปีชงปีมะเส็ง(งูเห่าน้ำ) ปีชง2556

แก้เคล็ด ปีชง2556 ปีชงปีมะเส็ง(งูเห่าน้ำ) ปีชง2556 


ภูมิปัญญาจีนโบราณ ได้เผยแพร่ความเชื่อเรื่อง เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา หรือ องค์ไท้ส่วย มา นานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลัทธิเต๋า ที่มักพบว่ามีรูปปั้นของ องค์ไท้ส่วยทั้ง 60 รูปประทับอยู่เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้สักการบูชาในทุกๆอาราม แต่ละปี องค์ไท้ส่วย จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปทุกๆปีอย่างไม่มีวันสิ้นสุด หรือที่เรียกว่า “เฝ้าปี” เพื่อทำหน้าที่ปกปักรักษาคุ้มครองดวงปี โดยใช้หลักโหรราศาสตร์จีน โป้ยหยี่สี่เถี่ยว มาเป็นเกณฑ์ และแต่ละองค์ก็จะมีชื่อให้เรียกขานแตกต่างกัน

ชาวจีนโดยทั่วไปเชื่อว่า เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นการกราบไหว้บูชา เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา หรือ องค์ไท้ส่วย ทุกๆ ปี ก็เป็นการเสริมดวงชะตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เกิดปีชง ควรกราบไหว้เพื่อวิงวอนให้องค์ไท้ส่วยคุ้มครองดวงชะตา เสมือนเป็นการฝากดวง เพื่อสะเดาะเคราะห์ ช่วยให้ร้ายกลายเป็นดี จากหนักกลายเป็นเบา นอกจากนี้ ผู้ใดที่เกิดปีร่วมชงไท้ส่วย ,ปีทับไท้ส่วย,ปีเฮ้งไท้ส่วย,ปีไห่ไท้ส่วยและสุดท้ายคือปีผั่วไท้ส่วย ก็ล้วนอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องกราบไหว้องค์ไท้ส่วย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง หากดวงดีอยู่แล้วก็ให้ดวงดียิ่งขึ้น หากดวงตกก็ตกไม่ถึงศูนย์

องค์ไท้ส่วยที่รับหน้าที่เฝ้าปีในปีพ.ศ. 2556 นี้ ปีมะเส็ง ตามปีใน 12 นักษัตร มีพระนามว่า ขุนพลฉื่อตัวไต่เจียงกุง (สี ตันต้าเจียงจวิน) เทพคุ้มครองดวงชาตาประจำปีกุ่ยจี๋ หรือ ปี 2556 มีอีกนามหนึ่งว่าสีกัน เกิดในสมัยราชวงศ์ฮั่น (คศ.25-220) ณ เมืองส่านตี้ผิงลู่ (ปัจจุบันคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเสียนหยาง มณฑลซ่านซี) ศึกษาวิชาบู๊แต่ยังเล็ก  ท่านขุนพลสีตันเป็นผู้ที่มีจิตใจห้าวหาญและเด็ดเดี่ยว  มีความเชี่ยวชาญในการทำศึก เคยเป็นผู้นำทัพชนะการโจมตีฝ่ายพันเชา และพันเฉิง ตลอดจนโจมตีเมืองอู่ชุนจนแตกพ่าย และในที่สุดท่านก็เป็นผู้สร้างสันติภาพในเขตซีอิ้ว (ปัจจุบันคือมณฑลซินเกียง, ด่านอวี้เหมินกวน) ให้มีความสงบร่มเย็น

ปีที่นับเป็นปีกุ่ยจี๋ หรือปี พ.ศ.  2496, 2556, 2616

ปีชง 2556 เริ่มนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน หรือวันตรุษจีน 2556 ดูดวงปี2556 คนที่มีปีเกิดตรงกับ ปีชง2556 และ ควรแก้ชง2556 ไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย คือ คนที่เกิดในปี นักษัตร 4 ปีนี้

- คนเกิดปีกุน (ปีหมู) เป็น ปีชงปี2556  เป็นปีปะทะ ปีชง 100%
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2490(อายุ 66ปี) ปี2514(อายุ 42ปี) ปี2550(อายุ 6ปี)
- คนเกิดปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) เป็น ปีชงปี2556  เป็นปีทับไท้ส่วย และเป็น คัก กับปีมะเส็ง
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2472(อายุ 84ปี) ปี2532(อายุ 24ปี)
- คนเกิดปีขาล (ปีเสือ) ปีชง2556  ปีร่วมชงไท้ส่วย เป็นปี เฮ้ง หรือปีเบียดเบียน และเป็นปี ไห่ คือปีให้ร้าย กับปีมะเส็ง
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2481(อายุ 75ปี) ปี2505(อายุ 51ปี) ปี2541(อายุ 15ปี)
- คนเกิดปีวอก (ปีลิง) เป็น ปีชงปี2556 ปีร่วมชงไท้ส่วย เป็นปี  ผั่ว หรือ ปีแตกแยก
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนที่เกิด ปี2463(อายุ 93ปี) ปี2523(อายุ 33ปี)

 

 ปีชง2556 คนที่เกิดปี กุน คือ ปีชงกับปีมะเส็งและถือเป็นอริ ปะทะโดยตรงกับ องค์ไท้ส่วย อาจ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดีอย่างรุนแรง เป็นดวงอริ พิฆาตดวงชะตา จึงไม่ควรใช้ชีวิตด้วยความประมาท เป็นไปได้สูงที่จะต้องสูญเสียของรักหรือผิดหวังอย่างรุนแรง ไม่เช่นนั้นก็ให้ระวังกระทบกระทั่งกับคนใกล้ตัวและบริวาร นอกจากจะต้องไปกราบไหว้ขอพรฝากดวงชะตาต่อองค์ไท้ส่วยแล้ว ก็ควรหารูปขององค์ไท้ส่วยประจำปีเกิดของตนมาบูชาหรือพกพาติดตัว ไม่เช่นนั้นก็ควรนำเครื่องรางของปีนักษัตร ขาล,เถาะหรือมะแม มาพกติดตัวเพื่อช่วยปัดเป่าภัยอันตรายให้พ้นตัว


 ปีชง2556 คนที่เกิดปี มะเส็ง คือ ปีทับไท้ส่วย ดวง ชะตาปี2556 มีแนวโน้มที่จะพบกับอุปสรรคหรือความล้มเหลว หากใช้ชีวิตโดยประมาทขาดความรอบคอบ มักจะได้รับความเดือดร้อนอย่างที่สุด เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่แบบบานปลาย สิ่งที่คิดหวังไว้อาจหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย นอกจากจะต้องไปกราบไหว้ขอพรฝากดวงชะตาต่อองค์ไท้ส่วยแล้ว ก็ควรหารูปขององค์ไท้ส่วยประจำปีเกิดของตนมาบูชาหรือพกพาติดตัว ไม่เช่นนั้นก็ควรนำเครื่องรางของปีนักษัตร ฉลู, วอกหรือระกา มาพกติดตัวเพื่อช่วยเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น


 ปีชง2556 คนที่เกิดปีขาล คือปี ร่วมชงไท้ส่วย ให้ผลเบียดเบียนและให้ร้าย กับปีมะเส็ง มักเกิดผลเสียเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ถูกหลอกลวงให้เสียเงินเสียเวลาหรือถูกทำลายชื่อเสียง ระวังความไม่ปรองดองกันของคนในครอบครัว,ญาติพี่น้องและเรื่องของสุขภาพ นอกจากจะต้องไปกราบไหว้ขอพรฝากดวงชะตาต่อองค์ไท้ส่วยแล้ว ก็ควรหารูปขององค์ไท้ส่วยประจำปีเกิดของตนมาบูชาหรือพกพาติดตัว ไม่เช่นนั้นก็ควรนำเครื่องรางของปีนักษัตร มะเมีย,จอหรือกุน มาพกติดตัวเพื่อช่วยบรรเทาอุปสรรคต่างๆให้ลดน้อยลง



 ปีชง2556 คนที่เกิดวอก คือ ปี ร่วมชงไท้ส่วยอีก ปีหนึ่งเช่นกัน ให้ผลแตกแยกกับปีมะเส็งอีกทั้งยังเบียดเบียนกับปีมะเส็ง จึงมักประสบกับปัญหา ผิดหวังซ้ำซาก ติดขัดหลายเรื่อง นอกจากชีวิตจะไม่ค่อยราบรื่นแล้ว ยังต้องพบเจอเรื่องลำบากใจ เสียของรัก ผลประโยชน์ที่ควรได้หลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา อาจมีปัญหาทั้งหนัก เบาและเป็นๆหายๆ ตลอดทั้งปี นอกจากจะต้องไปกราบไหว้ขอพรฝากดวงชะตาต่อองค์ไท้ส่วยแล้ว ก็ควรหารูปขององค์ไท้ส่วยประจำปีเกิดของตนมาบูชาหรือพกพาติดตัว ไม่เช่นนั้นก็ควรนำเครื่องรางของปีนักษัตร ชวด ,มะโรงหรือมะเส็ง มาพกติดตัวเพื่อกระตุ้นให้สิ่งดีๆ รวมถึงโชคลาภหมุนเวียนเข้ามาหา

 
ที่มา
http://free.horoworld.com/